องค์การเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชน (HRW) ออกแถลงการณ์วิจารณ์นโยบายใหม่ของคูเวต ที่บังคับแรงงานข้ามชาติต้องขออนุญาตนายจ้างก่อนเดินทางออกนอกประเทศ โดยมองว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้แรงงานตกเป็นเหยื่อการใช้ประโยชน์
รัฐบาลคูเวตประกาศนโยบายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 กำหนดให้แรงงานข้ามชาติต้องยื่นคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศผ่านนายจ้าง โดยใช้ระบบออนไลน์ "Ashal" หรือแอปพลิเคชัน "Sahel" ของกระทรวงมหาดไทย พร้อมระบุวันที่เดินทางและกลับประเทศ
HRW มองว่านโยบายดังกล่าวเป็นการถอยหลังในการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติของคูเวต แทนที่จะยกเลิกระบบ "กาฟาลา" (ระบบการค้ำประกันวีซ่า) ทั้งหมด รัฐบาลกลับเสริมสร้างระบบนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น ทำให้แรงงานตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนายจ้างมากขึ้นและเสี่ยงต่อการถูกใช้ประโยชน์
ปัจจุบันแรงงานในคูเวตถูกจำกัดสิทธิในการเดินทางอยู่แล้ว เนื่องจากนายจ้างมักยึดหนังสือเดินทาง และความกลัวการถูกแก้แค้น เช่น การถูกใส่ร้ายหลบหนี เมื่อนโยบายใหม่มีผลบังคับใช้ นายจ้างจะมีเครื่องมือควบคุมเพิ่มขึ้นในการป้องกันไม่ให้แรงงานกลับประเทศบ้านเกิด
แม้แรงงานจะสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐในกรณีถูกปฏิเสธการเดินทางอย่างไม่เป็นธรรม แต่หลายคนไม่กล้าดำเนินการเพราะกลัวถูกแก้แค้น นอกจากนี้ แรงงานรายได้น้อยอาจไม่ทราบถึงสิทธินี้หรือไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้
HRW ระบุว่านโยบายใบอนุญาตออกประเทศนี้ขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดว่า "ทุกคนมีสิทธิออกจากประเทศใดก็ได้ รวมทั้งประเทศของตนเอง และกลับสู่ประเทศของตน" การจำกัดสิทธินี้ทำได้เฉพาะในกรณีเฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น ระหว่างการสอบสวนคดีอาญา
องค์กรเรียกร้องให้รัฐบาลคูเวตยกเลิกข้อกำหนดใบอนุญาตออกประเทศทันที และมุ่งเน้นไปที่การยกเลิกระบบกาฟาลาทั้งหมดแทน