พนักงานกว่า 100 คนของสหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) ในลอนดอน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพ Unite เตรียมหยุดงานประท้วงในวันที่ 22 และ 29 กรกฎาคม 2025 นี้ รวมถึงปฏิเสธการทำงานล่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม เป็นต้นไป
การประท้วงเกิดขึ้นจากการที่ฝ่ายบริหารของ ITF มีแผนปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงการลดพนักงานลงถึงหนึ่งในสี่ของทั้งหมดในปีนี้ โดยพนักงานกว่า 89% ลงมติเห็นชอบให้มีการประท้วง
แผนการปรับลดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง แม้ว่าค่าจ้างในตำแหน่งผู้นำจะเพิ่มขึ้นถึง 47% ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2024 โดยเลขาธิการ ITF ได้รับค่าตอบแทนรวม 309,000 ปอนด์ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งสหภาพที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้ พนักงานที่รวมตัวกันเป็นสหภาพยังถูกข่มขู่ว่าจะเลิกจ้างภาคบังคับ หากไม่ยินยอมยกเลิกข้อตกลงการเจรจาต่อรองร่วมกันที่มีอยู่ และให้ใช้เอกสารที่ปรึกษาภายนอกจัดทำขึ้นมาแทน
Mercedes Sanchez เจ้าหน้าที่ภูมิภาคของ Unite กล่าวว่า "การปฏิบัติของผู้นำ ITF ต่อพนักงานเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่สามารถยอมรับได้ การลดพนักงานและการโจมตีการเจรจาต่อรองร่วมกันจะต้องถูกยกเลิก Unite จะสนับสนุนสมาชิกของเรา 100% จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง"
แม้ฝ่ายบริหารของ ITF อ้างปัญหาทางการเงิน แต่กลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลทางการเงินตามที่ Unite ร้องขอ ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการอนุญาโตตุลาการกลาง (Central Arbitration Committee) แล้ว
แผนการปรับลดพนักงานนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถของสหภาพในการให้บริการแก่สมาชิก และยังมีการเสนอให้ลดระดับค่าจ้างและเพิ่มภาระงานในตำแหน่งที่มีผู้หญิงทำงานอยู่หนาแน่น ซึ่งตรงกันข้ามกับการคุ้มครองตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่
ที่มา: Unite the union, 4/7/2025