สหภาพพยาบาลในมาเลเซียประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกแผนการเพิ่มชั่วโมงทำงานของพยาบาลจาก 42 เป็น 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งถูกคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มพยาบาลที่ทำงานเกินมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลกอยู่แล้ว
สหภาพพยาบาลมาลายัน (MNU) และสหภาพบริการทางการแพทย์ซาบาห์ (SMSU) เป็นหัวหอกในการรณรงค์คัดค้านนโยบายนี้ โดยชี้ว่าปัญหาที่แท้จริงคือการขาดแคลนบุคลากร ซึ่งควรได้รับการแก้ไขมากกว่าการเพิ่มชั่วโมงทำงานของพยาบาล การเพิ่มชั่วโมงทำงานจะนำไปสู่สภาพการทำงานที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ความเป็นอยู่ที่ดีของพยาบาลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพบริการด้านสุขภาพที่มอบให้แก่ชุมชนด้วย
สหภาพแรงงานได้มีส่วนร่วมและหารือกับผู้แทนรัฐบาลมาโดยตลอด ทั้งการเข้าพบและนำเสนอข้อกังวลต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ยังใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok และ Facebook ในการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของตน
หลังจากการรณรงค์และเจรจาหลายเดือน การคัดค้านอย่างต่อเนื่องก็ประสบผลสำเร็จ โดยรัฐบาลได้ถูกบีบให้กลับลำการตัดสินใจครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 82,637 คน รวมถึงพยาบาล พยาบาลชุมชน เจ้าหน้าที่การแพทย์แผนกฉุกเฉิน ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่การแพทย์ และผู้ช่วยดูแลสุขภาพ
ผู้นำสหภาพแรงงานพยาบาลมาลายันกล่าวว่า “นี่ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ เราจะต่อสู้เพื่อชั่วโมงการทำงานตามมาตรฐาน ILO อัตราส่วนบุคลากรที่ดีขึ้น และการทบทวนเงินเดือนและค่าตอบแทนสำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างครอบคลุมต่อไป” หลักฐานเชิงประจักษ์แสดงให้เห็นว่าการที่พยาบาลถูกบังคับให้ทำงานเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะเพิ่มความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ป่วย การบาดเจ็บจากการทำงาน และภาวะหมดไฟในการทำงาน