ผลสำรวจล่าสุดจากสหภาพแรงงาน UNISON เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รถพยาบาลทั่วอังกฤษกำลังประสบปัญหารุนแรง เมื่อต้องเห็นผู้ป่วยมีอาการแย่ลง บางรายถึงขั้นเสียชีวิตระหว่างรอส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน
จากการสำรวจเจ้าหน้าที่รถพยาบาลเกือบ 600 คน พบว่าร้อยละ 68 รายงานว่าผู้ป่วยมีอาการทรุดลงระหว่างรอนาน และร้อยละ 5 บอกว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตขณะอยู่ในความดูแลเพราะต้องรอนานกว่าจะได้เข้ารับการรักษา นอกจากนี้ ร้อยละ 16 ต้องรอหน้าห้องฉุกเฉินนานถึง 12 ชั่วโมงหรือมากกว่า และร้อยละ 53 ประสบความล่าช้านานกว่า 6 ชั่วโมง ทั้งที่มาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินในอังกฤษกำหนดให้ใช้เวลาเพียง 15 นาที และไม่ควรนานเกิน 30 นาที
ความล่าช้านี้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลผู้ป่วยในรถพยาบาลหรือตามทางเดินโรงพยาบาล บางครั้งต้องใช้รถพยาบาลเป็นห้องรักษาชั่วคราว หรือพาผู้ป่วยไปเอกซเรย์แล้วต้องกลับมารอในรถอีก เพราะยังไม่มีเตียงว่าง สถานการณ์นี้ส่งผลต่อความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของผู้ป่วยอย่างมาก
วิกฤตนี้ไม่เพียงส่งผลต่อผู้ป่วย แต่ยังกระทบเจ้าหน้าที่อย่างหนัก โดยร้อยละ 60 เผยว่าส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต และร้อยละ 39 กำลังคิดลาออกจากวิชาชีพ พวกเขาต้องทำงานภายใต้ความกดดันสูง ร้อยละ 93 ต้องทำงานล่วงเวลา ร้อยละ 83 พลาดเวลาพัก ร้อยละ 65 ไม่มีเวลากินหรือดื่มน้ำ และร้อยละ 31 ไม่มีโอกาสเข้าห้องน้ำระหว่างเข้ากะ
UNISON เสนอว่าควรเพิ่มบุคลากรในระบบบริการรถพยาบาล โรงพยาบาล และชุมชน ปรับปรุงระบบนัดหมายแพทย์ และเพิ่มศักยภาพการดูแลทางสังคมในชุมชน เพื่อลดจำนวนการเรียกรถพยาบาล และช่วยให้โรงพยาบาลสามารถส่งผู้ป่วยสูงอายุกลับสู่ชุมชนได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้มีเตียงว่างมากขึ้นและแก้ปัญหาความล่าช้าในการรับผู้ป่วยเข้ารักษา