ในยุคที่การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวกลายเป็นสิ่งสำคัญ สถานที่ทำงานที่เป็นมิตรต่อครอบครัวในสิงคโปร์จึงได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
จากการสำรวจในปี 2023 พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 2 ใน 5 คนมีแผนจะลาออกจากงานเพื่อปรับปรุงสมดุลชีวิตการทำงาน ด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะแม่บ้าน ผู้เกษียณ และผู้ดูแลครอบครัว กำลังพิจารณาออกไปทำงานนอกบ้าน
องค์กรที่เป็นมิตรต่อครอบครัวมีลักษณะเด่นหลายประการ เริ่มจากการจัดการงานที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากที่บ้าน การทำงานแบบผสมผสาน หรือเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น โดยการสำรวจปี 2024 ชี้ให้เห็นว่านายจ้าง 76% มีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ 2-4 วันต่อสัปดาห์
นโยบายการลาเพื่อดูแลบุตรก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้มีการลาคลอด 16 สัปดาห์และการลาดูแลบุตรของบิดา 4 สัปดาห์ แต่องค์กรก้าวหน้าหลายแห่งให้สิทธิประโยชน์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
การสนับสนุนการดูแลเด็กเป็นอีกด่านสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เด็กในสถานที่ทำงาน เงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูเด็ก หรือความร่วมมือกับศูนย์เด็กใกล้เคียง สิ่งเหล่านี้ช่วยลดภาระของพ่อแม่ที่ทำงานได้อย่างมาก
การสนับสนุนการดูแลครอบครัวขยายไปถึงการดูแลผู้สูงอายุด้วย แม้ว่าการลาดูแลพ่อแม่จะไม่ใช่ข้อกำหนดของรัฐบาล แต่ข้าราชการได้รับสิทธิลาดูแลพ่อแม่ 2 วัน และบริษัทเอกชนมากกว่า 13% ก็เริ่มให้สิทธิประโยชน์นี้เช่นกัน
วัฒนธรรมการทำงานที่สนับสนุนครอบครัวไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่เป็นเรื่องทัศนคติด้วย การสร้างสภาพแวดล้อมที่เข้าใจและเคารพการใช้สิทธิดูแลครอบครัวจึงเป็นสิ่งจำเป็น
โปรแกรมช่วยเหลือพนักงานด้านสุขภาพจิตก็มีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากความเครียดจากครอบครัวส่งผลต่อสุขภาพจิต บริษัทที่ให้บริการปรึกษาแบบลับ การอบรมเลี้ยงดูบุตร หรือทรัพยากรด้านสุขภาพจิต แสดงให้เห็นการดูแลพนักงานอย่างแท้จริง