Wednesday, September 10, 2025

การประท้วงของคนรุ่นใหม่ในเนปาล สะท้อนวิกฤตเศรษฐกิจและการขาดโอกาสในประเทศ

การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเนปาลเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 ท่ามกลางการประท้วงที่นำโดยคนรุ่นใหม่ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหารากฐานที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องการสั่งแบนโซเชียลมีเดีย ผู้ประท้วงออกมาแสดงพลังเนื่องจากความไม่พอใจต่อเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่สามารถสร้างงานและโอกาสที่มั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ได้

ชนวนเหตุเริ่มต้นจากการที่รัฐบาลสั่งแบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหลายแห่ง ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการหางาน ติดตามข่าวสาร และการใช้ชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการลงโทษโดยรวมและเป็นความพยายามที่จะควบคุมพื้นที่สาธารณะในสถานการณ์ที่คนหนุ่มสาวเผชิญกับอัตราการว่างงานที่สูงถึง 20.82% ในปี 2024

สาเหตุหลักของความไม่พอใจมาจากรูปแบบการพัฒนาของประเทศที่เน้นการส่งออกแรงงานไปยังต่างประเทศเพื่อรับค่าตอบแทน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 33% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2024 ตัวเลขที่น่าตกใจจากรายงานของกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นว่า มีแรงงานชาวเนปาลเกือบ 840,000 คนเดินทางไปทำงานต่างประเทศในช่วงปีงบประมาณ 2024/2025 ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการสร้างงานที่มีศักดิ์ศรีภายในประเทศ และเป็นประเด็นที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นเครื่องตัดสินใจทางการเมือง

การประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งผู้เสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 300 คน จนในที่สุดรัฐบาลก็ต้องยอมยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียและนายกรัฐมนตรีก็ลาออกตามมา การประท้วงครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเรียกร้องสิทธิทางดิจิทัลเท่านั้น แต่เป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่า หากรัฐบาลยังคงล้มเหลวในการสร้างโอกาสที่มั่นคงให้กับคนหนุ่มสาวแล้ว ถนนจะเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่พวกเขาสามารถแสดงออกถึงศักดิ์ศรีและความไม่พอใจได้

ที่มา: Peoples Dispatch, 9/10/2025 

เรื่องที่ได้รับความนิยม