สหภาพแรงงานคนทำงานภาครัฐ (PSA) ของนิวซีแลนด์ ออกมาประณามการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย Holidays Act 2003 โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการประหยัดเงินให้นายจ้างมากกว่าการให้สิทธิ์แก่แรงงานหญิง แรงงานพาร์ทไทม์ และแรงงานชั่วคราว เพื่อรับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมสำหรับการลาป่วยและการทำงานในวันหยุดราชการ
Fleur Fitzsimons เลขาธิการแห่งชาติของ PSA ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ใหม่นี้จะผลักดันให้แรงงานย้ายไปทำงานในออสเตรเลีย ซึ่งมีค่าตอบแทนและเงื่อนไขการทำงานที่ดีกว่ามาก โดยเฉพาะเรื่องวันหยุดและการลาป่วย
ประเด็นหลักที่ PSA แสดงความกังวล ได้แก่ ภายใต้กฎหมายใหม่ (Employment Leave Act) ทั้งวันหยุดประจำปีและวันลาป่วยจะคำนวณตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน ซึ่งหมายความว่าแรงงานพาร์ทไทม์จะต้องทำงานนานขึ้นเพื่อสะสมวันลาป่วยที่เพียงพอ และอาจถูกลงโทษเนื่องจากมีภาระในการดูแลครอบครัวมากกว่า
แรงงานชั่วคราวที่ได้รับค่าจ้างต่ำจะได้รับ "ค่าตอบแทนวันหยุด" เพิ่มเติมในอัตรา 12.5% จากค่าจ้าง ซึ่ง PSA มองว่าเป็นการบังคับให้แรงงานต้องจ่ายเงินสำหรับการลาป่วยของตัวเอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดงานได้เมื่อเจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้น นอกจากนี้ PSA อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในวันหยุดราชการจะทำให้แรงงานทุกคนเสียเปรียบ เนื่องจากนายจ้างไม่จำเป็นต้องให้วันหยุดชดเชยเต็มวันอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนิวซีแลนด์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสัมพันธ์ในสถานที่ทำงาน Brooke van Velden ชี้แจงว่ากฎหมายใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การคำนวณวันลาต่าง ๆ ง่ายขึ้นและมีความโปร่งใสมากขึ้นสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง นอกจากนี้ยังระบุว่าการเปลี่ยนแปลงจะให้ประโยชน์กับแรงงานชั่วคราวและผู้ปกครองที่กลับจากการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร โดยจะได้รับค่าจ้างวันลาเต็มจำนวน