ปัจจุบันแรงงานในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ลาออกจากงานเหมือนในอดีต ซึ่งแนวโน้มนี้กำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของตลาดแรงงาน โดยอัตราการลาออกลดลงสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมานานตั้งแต่ปี 2016 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของแรงงาน
บริษัทที่ปรึกษา Korn Ferry เรียกแนวโน้มนี้ว่า "การกอดงานไว้" (job hugging) ซึ่งหมายถึงการที่แรงงานเลือกความมั่นคงมากกว่าความเสี่ยง แม้จะต้องแลกมาด้วยต้นทุนส่วนตัวหรืออาชีพก็ตาม สาเหตุสำคัญมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกังวลว่าค่าจ้างที่ได้รับจะไม่สามารถตามทันค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้ การที่ผู้คนไม่เปลี่ยนงานเหมือนเดิมทำให้การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลงและการจ้างงานใหม่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ ยกเว้นช่วงที่เกิดการระบาดของโรค
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการที่แรงงานไม่ลาออกอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่น่ากังวลกว่า นั่นคือ ความรู้สึกไม่ผูกพันกับงานที่เพิ่มขึ้น (rising disengagement) ผลการศึกษาชี้ว่าพนักงานที่ไม่ผูกพันกับงานอาจทำให้บริษัทสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปีจากผลิตภาพที่ลดลง และภาระงานที่ต้องตกอยู่กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งสร้างความเครียดและลดประสิทธิภาพโดยรวม
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ LinkedIn พบว่า 58% ของแรงงานในสหรัฐฯ รู้สึกว่าทักษะของตนเองยังไม่ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในบทบาทปัจจุบัน ซึ่งหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ซบเซายาวนาน