IUF Asia/Pacific ระบุว่า McDonald’s บริษัทฟาสต์ฟู้ดชื่อดังในฮ่องกงกำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกรณีการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อ คนงานที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งเป็นนโยบายการจ้างงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรและมูลค่าแบรนด์ในสายตาสาธารณชน แต่กลับถูกรายงานว่ามีการทารุณกรรมและปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมต่อคนงานกลุ่มนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจ อารมณ์ และร่างกายของคนงานที่มีความบกพร่อง ความมั่นใจในตนเองที่ควรจะได้รับจากการมีงานทำกลับถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทล้มเหลวในหลายระดับ ซึ่งปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการไล่ผู้จัดการที่ขาดประสบการณ์และไม่ได้รับการฝึกอบรมเพียงไม่กี่คนออก หรือโยนความผิดให้ปัจเจกบุคคลเท่านั้น ทั้งยังเกิดขึ้นในขณะที่บริษัทได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสำหรับโครงการจ้างงานที่สังคมเชื่อว่าเป็นการช่วยเหลือคนพิการ
การจ้างงานคนพิการเป็นโอกาสอันดีที่ช่วยให้คนกลุ่มนี้มีรายได้ มีอิสรภาพทางการเงิน และพัฒนาทักษะความมั่นใจ แต่บริษัทไม่ควรเน้นเพียงแค่การสร้างภาพลักษณ์ หรือมองว่าเป็นเพียงกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลเท่านั้น บริษัทต้องมีความรับผิดชอบในการสร้างหลักประกันว่าคนงานจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีงานที่มั่นคงปลอดภัย ปราศจากการเลือกปฏิบัติและการคุกคาม
นอกจากนี้ ผู้จัดการ หัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงานทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสม ซึ่งไม่ใช่เพียงการประกาศนโยบายหรือการประชุมสั้น ๆ แต่ต้องเป็นการฝึกอบรมอย่างจริงจัง เช่น ทักษะการสื่อสารและการจัดการงานเมื่อทำงานร่วมกับคนงานที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม รวมถึงการมอบหมายงานต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของการจ้างงาน ไม่ใช่การมอบหมายงานใช้แรงงานที่ซ่อนเร้น เช่น การทำความสะอาดห้องน้ำในกะดึก เพื่อลดปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน การดำเนินการดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีเพียงนโยบายความหลากหลายในการจ้างงาน แต่ขาดระบบที่จะสร้างความหลากหลายในสถานที่ทำงานผ่านการยอมรับและความเคารพ การล้มเหลวในการจัดหาการฝึกอบรมที่เหมาะสม ถือเป็นความล้มเหลวเชิงสถาบันขั้นพื้นฐาน
