Starbucks ตกลงจ่ายเงินประมาณ 35 ล้านดอลลาร์ ให้พนักงานในนิวยอร์กมากกว่า 15,000 คน ซึ่งนับเป็นข้อตกลงคุ้มครองคนงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนครนิวยอร์ก หลังจากที่เมืองกล่าวหาว่าบริษัทปฏิเสธการจัดตารางทำงานที่มั่นคงให้กับคนงานหลายพันคน และลดชั่วโมงทำงานตามอำเภอใจ
ข้อตกลงซึ่งประกาศเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2025 คาดว่าจะทำให้พนักงาน Starbucks หลายคนได้รับเงินหลายพันดอลลาร์ โดยพนักงานรายชั่วโมงส่วนใหญ่ที่ทำงานในนครนิวยอร์กตั้งแต่กรกฎาคม 2021 ถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2024 จะได้รับเงิน 50 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ที่ทำงาน สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคและคนงานของเมืองระบุว่า ได้สอบสวนการละเมิดกฎหมายสัปดาห์ทำงานที่เป็นธรรม (Fair Workweek Law) มากกว่า 500,000 ครั้ง
กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้บริษัทค้าปลีกและฟาสต์ฟู้ดต้องแจ้งตารางการทำงานให้พนักงานทราบล่วงหน้าและคาดการณ์ได้ ซึ่งการสอบสวนพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับตารางงานที่เป็นปกติ และบริษัทยังลดชั่วโมงทำงานของพนักงานลงร้อยละ 15 หรือมากกว่าเป็นประจำ ทำให้รายได้ของพวกเขาไม่มั่นคง นอกจากนี้ บริษัทยังปฏิเสธโอกาสที่คนงานจะรับกะเพิ่มเติม ทำให้พวกเขาอยู่ในสถานะทำงานพาร์ทไทม์โดยไม่สมัครใจ
สหภาพแรงงาน Starbucks Workers United ซึ่งเป็นตัวแทนของร้านค้าหลายแห่งในเมือง กล่าวว่าการจ่ายเงินนี้เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับคนงาน และจะช่วยให้พวกเขาอยู่รอดได้ในช่วงฤดูหนาวนี้ ด้าน Starbucks ระบุในแถลงการณ์ว่า การชำระเงินนี้เป็นเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ใช่ค่าจ้างที่ค้างจ่าย และยอมรับว่าข้อกำหนดของกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ท้าทายในการปฏิบัติตาม
