Saturday, October 4, 2025

ยุติประท้วงชั่วคราว แรงงาน 14 สนามบินเกาหลีใต้กลับเข้าทำงาน เตรียมเจรจา ขณะอินชอนยังคงหยุดต่อ

สหภาพแรงงานสนามบิน ในเกาหลีใต้ประกาศยุติการประท้วงหยุดงานอย่างไม่มีกำหนดเป็นการชั่วคราว โดยพนักงานใน 14 สนามบิน ทั่วประเทศ (ยกเว้นสนามบินนานาชาติอินชอน) จะกลับเข้าทำงานตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2025

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเปิดทางให้มีการประชุมระหว่างทำเนียบประธานาธิบดีและ Korea Airports Corporation โดยแรงงานระบุว่า หากไม่มีคำตอบที่รับผิดชอบ จากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังจากการประชุม พวกเขาจะเริ่ม ประท้วงใหญ่ อีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม

สหภาพแรงงานสนามบิน ซึ่งเริ่มต้นนัดหยุดงานเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2025 ก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาล ชูซ็อก เรียกร้องให้มีการปรับปรุงสภาพการทำงาน ทั้งระบบกะการทำงานที่ยืดหยุ่นขึ้น การเพิ่มจำนวนพนักงาน และการยุติการกีดกันสหภาพฯ อย่างไรก็ตาม แรงงานที่สนามบินอินชอน ประกาศจะเดินหน้าประท้วงเต็มรูปแบบต่อไปตลอดช่วงวันหยุดชูซ็อก

ที่มา: The Korea JoongAng Daily, 4/10/2025 

Friday, October 3, 2025

WHO ชี้ยุโรปพึ่งพาบุคลากรแพทย์ต่างชาติพุ่งสูง หวั่นกระทบประเทศยากจน



รายงานใหม่จาก องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า จำนวนแพทย์และพยาบาลที่ได้รับการฝึกอบรมจากต่างประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยระหว่างปี 2557–2566 จำนวนแพทย์ที่จบจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 58% และพยาบาลเพิ่มขึ้น 67% และภายในปี 2566 แพทย์ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่เกือบ 6 ใน 10 คน และพยาบาลเกือบ 3 ใน 4 ได้รับการฝึกอบรมในต่างประเทศ

การพึ่งพาบุคลากรต่างชาตินี้ เป็นกลยุทธ์สำคัญในการอุดช่องว่างแรงงานที่คาดว่าจะขาดแคลนถึง 950,000 คน ภายในปี 2573 โดยมี เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร เป็นประเทศที่มีการจ้างงานบุคลากรกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนย้ายบุคลากรดังกล่าวได้ทำให้เกิดความไม่สมดุล เนื่องจากประเทศในยุโรปตะวันออกและใต้สูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ฝีมือดีไปยังประเทศร่ำรวยทางตะวันตกและเหนือ ซึ่งทำให้ระบบสุขภาพในประเทศต้นทางที่ตึงเครียดอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก WHO จึงเรียกร้องให้รัฐบาลต่าง ๆ วางแผนระยะยาวเพื่อรักษาบุคลากรในประเทศ และร่วมมือกันจัดการการสรรหาแรงงานข้ามชาติให้เป็นธรรมและยั่งยืน

ทีมา: Etias.com, 3/10/2025 

จนท.รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ถูกพักงานช่วงชัตดาวน์โดยไม่ได้รับค่าจ้าง มีสิทธิ์ยื่นขอรับเงินว่างงาน แต่ต้องชดใช้คืน

จากการชัตดาวน์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติงานหลายแสนคนถูกสั่ง พักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (furloughed) สำนักงานบริหารงานบุคคล (OPM) ยืนยันว่าพนักงานส่วนใหญ่สามารถยื่นขอรับ เงินชดเชยการว่างงาน (UI) เพื่อช่วยพยุงค่าใช้จ่ายได้เป็นการชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม เมื่อสภาคองเกรสผ่านงบประมาณและรัฐบาลกลับมาเปิดทำการตามปกติ พนักงานจะได้รับ ค่าจ้างย้อนหลัง และมีภาระผูกพันที่จะต้อง ชำระคืน เงินชดเชยการว่างงานทั้งหมดที่ได้รับแก่รัฐนั้น ๆ

ด้านสวัสดิการ ประกันสุขภาพ ยังคงคุ้มครองตามปกติ แม้จะไม่ได้จ่ายเบี้ยประกันในช่วงชัตดาวน์ แต่ส่วนที่ค้างจะถูกหักจากเงินเดือนเมื่อกลับไปทำงาน ส่วนพนักงานที่ต้องการรับงานอื่นระหว่างถูกพักงานจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของรัฐบาลกลางอย่างเคร่งครัด

ที่มา: USA Today, 3/10/2025 

Thursday, October 2, 2025

องค์การบริการสุขภาพ AHS ในแคนาดา สั่งพนักงานที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงาน พักงานไม่รับค่าจ้าง

องค์การบริการสุขภาพแอลเบอร์ตา (AHS) ของแคนาดา ได้สั่งให้พนักงานบางส่วนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานและมีเงินเดือนอยู่ในระดับที่กำหนด หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง 2 วัน ภายในเดือนมีนาคม 2026 เพื่อรับมือกับวิกฤตทางการเงิน

AHS ระบุว่ามาตรการดังกล่าวเป็น "การประหยัดค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียว" เพื่อให้บรรลุข้อผูกพันทางการเงิน ท่ามกลางแรงกดดันด้านงบประมาณที่หน่วยงานกำลังเผชิญอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุจำนวนเงินที่จะประหยัดได้หรือจำนวนพนักงานที่จะได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

เจ้าหน้าที่ของ AHS ยืนยันว่าการพักงานนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงานด่านหน้า ที่ทำงานโดยตรงกับผู้ป่วย และจะไม่มีผลกระทบต่อบริการด้านสุขภาพใด ๆ มาตรการนี้เป็นหนึ่งในหลายแนวทางประหยัดค่าใช้จ่ายที่ได้รับการอนุมัติ นอกเหนือจากการจัดการตำแหน่งว่างและการจัดการวันหยุดพักผ่อนที่มากเกินไป

การปรับลดค่าใช้จ่ายนี้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลแอลเบอร์ตาคาดการณ์ว่าปีงบประมาณนี้จะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการค้า

ที่มา: Globe and Mail, 2/10/2025 

คนทำงานภาคสาธารณสุขนิวซีแลนด์กว่า 11,500 คน มีมตินัดหยุดงานประท้วง เรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรมและการจัดกำลังคนอย่างปลอดภัย

คนทำงานภาคสาธารณสุขมากกว่า 11,500 คนในนิวซีแลนด์ สมาชิกของสหภาพแรงงานภาคบริการสาธารณะ (PSA) มีมตินัดหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 24 ชั่วโมงในวันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2025 เพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องให้มีการ จัดกำลังคนอย่างปลอดภัย และขอให้มี ค่าตอบแทนและสภาพการทำงานที่ดีขึ้น

การตัดสินใจหยุดงานมีขึ้นหลังจากการเจรจาตั้งแต่เดือนมิถุนายนล้มเหลว โดยที่ Health NZ Te Whatu Ora เสนอขึ้นค่าจ้างเพียง 2% และ 1.5% ในระยะเวลา 30 เดือน ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อมาก

คนทำงานกลุ่มนี้ ซึ่งรวมถึงนักสังคมสงเคราะห์, นักกายภาพบำบัด, นักวิทยาศาสตร์, และช่างเทคนิควิสัญญี กล่าวว่า การขาดแคลนพนักงาน ทำให้พวกเขาต้องทำงานล่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาวะหมดไฟ และทำให้การดูแลผู้ป่วยไม่ได้มาตรฐาน พวกเขาต้องการให้รัฐบาลจัดสรรเงินทุนแก่ระบบสุขภาพอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาบุคลากรไม่ให้ย้ายไปทำงานในต่างประเทศ

ที่มา: PSA New Zealand, 2/10/2025 


Wednesday, October 1, 2025

รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ 'วอชิงตัน ดี.ซี.-แคลิฟอร์เนีย' มีเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางมากที่สุด

1 ตุลาคม 2025 การชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อลูกจ้างรัฐบาลกลางหลายแสนคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหนาแน่น

วอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นศูนย์กลางของรัฐบาล มีจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางมากที่สุดถึง 162,489 คน คิดเป็นหนึ่งในห้าของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ในขณะที่ในกลุ่มรัฐ แคลิฟอร์เนีย นำเป็นอันดับหนึ่งด้วยจำนวน 150,679 คน ส่วนรัฐที่มีเจ้าหน้าที่น้อยที่สุดคือ เวอร์มอนต์ (3,368 คน)

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรแล้ว แมริแลนด์ เป็นรัฐที่มีสัดส่วนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางต่อประชากรมากที่สุด ตามมาด้วย ฮาวาย และ เวอร์จิเนีย

การหยุดงานของเจ้าหน้าที่จำนวนมากนี้ อาจทำให้บางรัฐมีคิวยาวขึ้นในการยื่นขอรับสวัสดิการ เงินชดเชยการว่างงาน

ที่มา: USA TODAY, 1/10/2025 


คนทำงาน 15 สนามบินในเกาหลีใต้ หยุดงานประท้วงเรียกร้องเปลี่ยนระบบการทำงาน

แรงงานใน 15 สนามบินทั่วเกาหลีใต้ รวมถึงสนามบินนานาชาติ อินชอน ได้เริ่มการประท้วงหยุดงานอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2025 ก่อนหน้าช่วงวันหยุดเทศกาล ชูซ็อก ที่จะมีผู้โดยสารเดินทางมากเป็นประวัติการณ์

มีคนงานเข้าร่วมกว่า 2,000 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด, ควบคุมการจราจร, ดับเพลิง และบริหารจัดการอาคาร โดยพวกเขายื่นข้อเรียกร้องให้เปลี่ยนระบบการทำงานจาก 3 ทีม 2 กะ เป็น 4 ทีม 2 กะ พร้อมทั้งขอให้มีการเพิ่มจำนวนพนักงาน และปรับปรุงสวัสดิการสำหรับพนักงานบริษัทลูก

แม้จะมีรายงานว่าขยะเริ่มสะสมในบางพื้นที่ของสนามบินอินชอน แต่ในวันแรกของการประท้วง ยังไม่มีรายงานความล่าช้าหรือการหยุดชะงักของเที่ยวบิน อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทางการสนามบินได้จัดเตรียมกำลังพลสำรอง 408 คนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่าหากการประท้วงยืดเยื้อ อาจนำไปสู่ความโกลาหลครั้งใหญ่ได้

ที่มา: The Korea Herald, 1/10/2025 

Monday, September 29, 2025

มาเลเซียเตรียมคุ้มครองคนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ได้ประกาศแผนจะนำเสนอ "โครงการบาดเจ็บนอกเวลางาน" (Non-Employment Injury Scheme) ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อขยายความคุ้มครองทางสังคมแก่แรงงานให้ครอบคลุม ตลอด 24 ชั่วโมง

โครงการนี้มีขึ้นจากความตระหนักที่ว่าความกดดันในการทำงานไม่ได้สิ้นสุดลงเมื่อออกจากสำนักงานหรือโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีการทำงานที่ยืดหยุ่นและจากทางไกล นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวว่า การปฏิรูปนี้จะทำให้ความคุ้มครองสอดคล้องกับความเป็นจริงของการใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบัน

การประกาศนี้เกิดขึ้นระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน World Social Security Forum 2025 โดยสอดคล้องกับแผนการแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคมของพนักงาน ปี 1969 ที่มีเป้าหมายในการให้ความคุ้มครองความปลอดภัยทางสังคมตลอดทั้งวันแก่ลูกจ้างภายใต้องค์กรประกันสังคม นอกจากนี้ มาเลเซียยังมีแผนจะขยายความคุ้มครองนี้ไปถึง แรงงานนอกระบบ แม่บ้าน และผู้ทำงานในระบบเศรษฐกิจ Gig ที่ยังขาดความคุ้มครองอีกด้วย

ที่มา: The Sun Malaysia, 29/9/2025 

Friday, September 26, 2025

สิงคโปร์เร่งปรับทัพแรงงานและธุรกิจ รับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจ

การอภิปรายในรัฐสภาสิงคโปร์เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา มีการนำเสนอแนวทางสำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพแรงงานและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการปรับตัวเข้ากับยุคเศรษฐกิจใหม่

หนึ่งในข้อเสนอสำคัญคือการจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะแรงงาน และจับคู่กับ ธุรกิจ SMEs ที่ต้องการยกระดับกระบวนการทำงานสู่ระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการสนับสนุนบริษัทที่พัฒนาทักษะพนักงานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สส. ยังได้หารือถึงประเด็นสำคัญอื่น ๆ เช่น การสร้างรากฐานอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อลดความเสี่ยงจากการย้ายฐานธุรกิจจากต่างชาติ, การควบคุมค่าเช่าพื้นที่ร้านค้าที่สูงเกินไป และการพิจารณากฎหมายคุ้มครองแรงงานเพื่อให้พนักงานมีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้น

ที่มา: The Straits Times, 26/9/2025 


มาตรการภาษีของสหรัฐฯ สั่นคลอนเศรษฐกิจเลโซโท ภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและแรงงาน 30,000 คน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ อย่างกะทันหันและไม่แน่นอน กำลังสั่นคลอนรากฐานของเศรษฐกิจเลโซโทที่เปราะบาง โดยเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอที่สำคัญของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานประมาณ 30,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

สินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปคิดเป็น 80% ของการส่งออกทั้งหมดของเลโซโทไปยังสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นประมาณ 20% ของการส่งออกรวมของประเทศ การกระทบกระเทือนครั้งแรกคือการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสิ่งทอจากเลโซโทในอัตรา 15% ซึ่ง IMF ชี้ว่าได้บั่นทอนเสาหลักของเศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาการเติบโตต่ำและการว่างงานสูงอยู่แล้ว

การเรียกเก็บภาษีดังกล่าว รวมกับภัยคุกคามที่อาจจะมีการปรับขึ้นภาษีไปที่ 50% ทำให้คำสั่งซื้อใหม่จากตลาดสหรัฐฯ หยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง IMF เตือนว่า หากไม่มีความชัดเจน อุปสงค์สำหรับสินค้าเสื้อผ้าจากเลโซโทจะไม่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นหายนะสำหรับภาคส่วนนี้ที่แม้จะอยู่ภายใต้ กฎหมายการเติบโตและโอกาสของแอฟริกา (AGOA) ซึ่งยกเว้นภาษีนำเข้า ก็ยังต้องต่อสู้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้

IMF ประมาณการว่ามาตรการภาษีที่เข้มงวดนี้อาจทำให้การส่งออกของเลโซโทไปยังสหรัฐฯ ลดลงถึง 50% ภายในปีเดียว และอาจลดลงถึง 70% ในระยะกลาง ส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ลดลงถาวร 0.5% จุด

เพื่อรับมือกับวิกฤตภาษีนี้ เลโซโทได้ส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อล็อบบี้ให้มีการขยายอายุของ AGOA และลดภาษีลง เพื่อฟื้นฟูสิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าเสื้อผ้าของเลโซโท เนื่องจาก AGOA กำลังจะหมดอายุในสิ้นเดือนกันยายนนี้

IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเลโซโทในปี 2025 ลงจาก 2.2% เหลือเพียง 1.4% และคาดว่าการเติบโตในระยะกลางจะซบเซาอยู่ที่ 1.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงพอที่จะปรับปรุงรายได้ต่อหัวของประชากรได้

ที่มา: GroundUp, 26/9/2568 

Thursday, September 25, 2025

ผลการศึกษาใหม่เผย AI กำลังเข้ามาแทนที่ 'แรงงานระดับเริ่มต้น' อายุต่ำกว่า 25 ปี

ข้อมูลใหม่จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งวิเคราะห์บันทึกการจ่ายเงินเดือนหลายล้านรายการตั้งแต่ปลายปี 2022 (ช่วงที่ ChatGPT เปิดตัว) จนถึงฤดูร้อนปีนี้ พบว่า แรงงานระดับเริ่มต้นที่มีอายุระหว่าง 22–25 ปี เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์มากที่สุด

การศึกษาพบว่าในสาขาอาชีพที่มีการใช้ AI สูง เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ และ การบริการลูกค้า แรงงานอายุ 22–25 ปี มีอัตราการจ้างงานลดลงสัมพัทธ์ถึง 13%

นักวิจัยระบุว่าสาเหตุที่คนหนุ่มสาวกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ เนื่องจาก AI มีความสามารถในการจัดการ "ความรู้ตามตำรา" และงานพื้นฐานที่นิสิตนักศึกษาเรียนรู้มาได้เป็นอย่างดี เช่น การวิเคราะห์ชุดข้อมูลการเขียนโค้ดขนาดใหญ่และงานผลิตพื้นฐาน ซึ่งเป็นงานที่แรงงานระดับเริ่มต้นมักจะทำ

ในทางตรงกันข้าม การจ้างงานสำหรับแรงงานที่มีอายุ 35–49 ปี กลับเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้มีข้อได้เปรียบจาก "ความรู้และประสบการณ์" ที่สั่งสมมา พวกเขามีความรู้เฉพาะด้านและประสบการณ์ทำงานที่ซับซ้อน ซึ่ง AI ยังไม่สามารถแทนที่ได้ และ "ทักษะทางสังคม" พวกเขาสามารถจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าและมีประสบการณ์เฉพาะของบริษัท (firm-specific experience) ซึ่งต้องอาศัยปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง

แม้ว่าผลสำรวจจะยืนยันถึงตลาดงานที่ยากลำบากสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยังมีอาชีพบางประเภทที่ยังคงเติบโต เช่น ผู้ช่วยพยาบาลและผู้ดูแลสุขภาพที่บ้าน ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง

ศาสตราจารย์ด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลแนะนำให้คนหนุ่มสาวเน้นการพัฒนา ทักษะความเป็นมนุษย์ที่ไม่เหมือนใคร ที่ AI ยังทำไม่ได้ ดังนี้ ทักษะทางสังคมและความเห็นอกเห็นใจ ทักษะการสื่อสารที่นุ่มนวล และ ความสามารถในการเป็นผู้นำ และความสามารถในการจัดการสถานการณ์ความขัดแย้งและสถานการณ์ที่มีความคลุมเครือทางศีลธรรม

นอกจากนี้ ยังควรมุ่งเน้นการทำ "cognitive pushups" หรือการ ตั้งใจเผชิญหน้ากับงานที่ท้าทาย และ หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ AI คิดแทน เพื่อพัฒนาความสามารถในการเชื่อมโยงแนวคิดที่ซับซ้อนและการคิดเชิงวิพากษ์ ซึ่งจะช่วยให้โดดเด่นในตลาดแรงงานในอนาคตได้

ที่มา: HuffPost, 25/9/2025 

แรงงานในฟาร์มแอปเปิลนิวยอร์กประท้วง นายจ้างปฏิเสธรับรองสหภาพแรงงาน

แรงงานในฟาร์ม Wafler Nursery ในรัฐนิวยอร์กตะวันตก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติจากจาเมกาที่ทำงานภายใต้วีซ่า H-2A ได้รวมตัวกันแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องให้นายจ้างยอมรับสัญญาของสหภาพแรงงานที่พวกเขาได้เจรจาสำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยแรงงานมากกว่า 110 คนกล่าวหาว่าฟาร์มแห่งนี้ปฏิเสธที่จะให้สิทธิ์ได้รับค่าแรงที่สูงขึ้น วันลาแบบมีค่าจ้าง แผนการเกษียณอายุ และสิทธิในการกลับมาทำงานต่อในปีถัดไปตามที่ตกลงกันไว้

แรงงานเหล่านี้เปิดเผยว่าสภาพการทำงานหนักและต้องทำงานยาวนานเกือบ 11 ชั่วโมงต่อวัน ท่ามกลางการสัมผัสกับยาฆ่าแมลง และมีการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่จำกัด แม้ว่าพวกเขาจะถูกกำหนดให้เก็บผลผลิตตามปริมาณที่กำหนด แต่ในทางปฏิบัติพวกเขามักจะทำงานเกินกว่าที่กำหนดมาก สัญญาของสหภาพฯ มีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยจะให้ค่าจ้างเพิ่มเป็น "Piece Rate" สำหรับงานที่ทำเกินกว่าสัญญาจ้าง

สหภาพแรงงานได้ยื่นฟ้องร้องต่อคณะกรรมการแรงงานของรัฐนิวยอร์กหลังจากที่ Wafler Nursery ไม่ยอมรับสัญญา การต่อสู้ทางกฎหมายได้ยืดเยื้อมานาน โดยฟาร์มโต้แย้งในชั้นศาลว่าแรงงานข้ามชาติไม่มีสิทธิในการรวมตัวเป็นสหภาพ และศาลได้สั่งชะลอการบังคับใช้สัญญาออกไปก่อน ซึ่งทำให้การตัดสินใจของศาลเลื่อนออกไปจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แรงงานส่วนใหญ่จะต้องเดินทางกลับประเทศ

การต่อต้านจาก Wafler Nursery สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเกษตรของนิวยอร์ก หลังจากการผ่าน กฎหมายแรงงานเกษตรกรและแนวปฏิบัติที่เป็นธรรม ปี 2019 ที่ให้สิทธิแก่แรงงานเกษตรในการรวมตัวเป็นสหภาพฯ แรงงานชี้ว่านายจ้างกำลังใช้ทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการรวมตัวกันนี้ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า "ความหวาดกลัว" เป็นสิ่งที่คอยบีบให้แรงงานไม่กล้าออกมาพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานข้ามชาติที่เกรงว่าการต่อรองอาจทำให้พวกเขาไม่ได้รับการต่อสัญญาในปีถัดไป

ในขณะที่ Wafler ปฏิเสธการรับรองสัญญา แต่ Cahoon Farms ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน กลายเป็นฟาร์มเดียวในรัฐนิวยอร์กที่ยอมรับสัญญาของสหภาพฯ แล้ว ส่งผลให้แรงงานที่นั่นได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงและค่าตอบแทนตามผลงานที่เพิ่มขึ้น มีแผนการเกษียณอายุ วันลาแบบมีค่าจ้าง และมีสิทธิในการกลับมาทำงานต่อตามลำดับอาวุโส ซึ่งสภาพความเป็นอยู่และที่พักของแรงงานยังคงคล้ายคลึงกัน แต่สิทธิและสภาพการทำงานของแรงงานที่ Cahoon Farms ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ที่มา: Documented, 25/9/2025 

Wednesday, September 24, 2025

คนอเมริกันหันมา 'กอดงานไว้' เลือกความมั่นคงมากกว่าความท้าทายใหม่

ปัจจุบันแรงงานในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ลาออกจากงานเหมือนในอดีต ซึ่งแนวโน้มนี้กำลังเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของตลาดแรงงาน โดยอัตราการลาออกลดลงสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมานานตั้งแต่ปี 2016 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของแรงงาน

บริษัทที่ปรึกษา Korn Ferry เรียกแนวโน้มนี้ว่า "การกอดงานไว้" (job hugging) ซึ่งหมายถึงการที่แรงงานเลือกความมั่นคงมากกว่าความเสี่ยง แม้จะต้องแลกมาด้วยต้นทุนส่วนตัวหรืออาชีพก็ตาม สาเหตุสำคัญมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความกังวลว่าค่าจ้างที่ได้รับจะไม่สามารถตามทันค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้ การที่ผู้คนไม่เปลี่ยนงานเหมือนเดิมทำให้การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลงและการจ้างงานใหม่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ ยกเว้นช่วงที่เกิดการระบาดของโรค

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการที่แรงงานไม่ลาออกอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่น่ากังวลกว่า นั่นคือ ความรู้สึกไม่ผูกพันกับงานที่เพิ่มขึ้น (rising disengagement) ผลการศึกษาชี้ว่าพนักงานที่ไม่ผูกพันกับงานอาจทำให้บริษัทสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปีจากผลิตภาพที่ลดลง และภาระงานที่ต้องตกอยู่กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งสร้างความเครียดและลดประสิทธิภาพโดยรวม

นอกจากนี้ ผลสำรวจของ LinkedIn พบว่า 58% ของแรงงานในสหรัฐฯ รู้สึกว่าทักษะของตนเองยังไม่ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในบทบาทปัจจุบัน ซึ่งหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ซบเซายาวนาน

ที่มา: CNBC, 24/9/2025 

การปฏิรูปกฎหมายวันหยุดของนิวซีแลนด์ส่งผลกระทบต่อแรงงานหญิง พาร์ทไทม์ และชั่วคราว

สหภาพแรงงานคนทำงานภาครัฐ (PSA) ของนิวซีแลนด์ ออกมาประณามการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย Holidays Act 2003 โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการประหยัดเงินให้นายจ้างมากกว่าการให้สิทธิ์แก่แรงงานหญิง แรงงานพาร์ทไทม์ และแรงงานชั่วคราว เพื่อรับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมสำหรับการลาป่วยและการทำงานในวันหยุดราชการ

Fleur Fitzsimons เลขาธิการแห่งชาติของ PSA ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ใหม่นี้จะผลักดันให้แรงงานย้ายไปทำงานในออสเตรเลีย ซึ่งมีค่าตอบแทนและเงื่อนไขการทำงานที่ดีกว่ามาก โดยเฉพาะเรื่องวันหยุดและการลาป่วย

ประเด็นหลักที่ PSA แสดงความกังวล ได้แก่ ภายใต้กฎหมายใหม่ (Employment Leave Act) ทั้งวันหยุดประจำปีและวันลาป่วยจะคำนวณตามจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน ซึ่งหมายความว่าแรงงานพาร์ทไทม์จะต้องทำงานนานขึ้นเพื่อสะสมวันลาป่วยที่เพียงพอ และอาจถูกลงโทษเนื่องจากมีภาระในการดูแลครอบครัวมากกว่า 

แรงงานชั่วคราวที่ได้รับค่าจ้างต่ำจะได้รับ "ค่าตอบแทนวันหยุด" เพิ่มเติมในอัตรา 12.5% จากค่าจ้าง ซึ่ง PSA มองว่าเป็นการบังคับให้แรงงานต้องจ่ายเงินสำหรับการลาป่วยของตัวเอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดงานได้เมื่อเจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้น นอกจากนี้ PSA อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในวันหยุดราชการจะทำให้แรงงานทุกคนเสียเปรียบ เนื่องจากนายจ้างไม่จำเป็นต้องให้วันหยุดชดเชยเต็มวันอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนิวซีแลนด์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสัมพันธ์ในสถานที่ทำงาน Brooke van Velden ชี้แจงว่ากฎหมายใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การคำนวณวันลาต่าง ๆ ง่ายขึ้นและมีความโปร่งใสมากขึ้นสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง นอกจากนี้ยังระบุว่าการเปลี่ยนแปลงจะให้ประโยชน์กับแรงงานชั่วคราวและผู้ปกครองที่กลับจากการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร โดยจะได้รับค่าจ้างวันลาเต็มจำนวน

ที่มา: The Daily Blog, 24/9/2025 

Monday, September 22, 2025

แรงงานและนักศึกษาในอิตาลีประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวปาเลสไตน์

แรงงานและนักศึกษาหลายพันคนทั่วอิตาลีได้เข้าร่วมการประท้วงหยุดงานและจัดการชุมนุมทั่วประเทศ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา การประท้วงที่ดำเนินไปตลอด 24 ชั่วโมงในที่ 22 กันยายน 2025 ส่งผลกระทบต่อทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะ รถไฟ โรงเรียน และท่าเรือ

การประท้วงทำให้เกิดความล่าช้าในบริการรถไฟทั่วประเทศ และทำให้การขนส่งสาธารณะในเมืองใหญ่ เช่น โรมและมิลาน ถูกจำกัด ขณะเดียวกัน การสัญจรของสินค้าก็หยุดชะงักหรือถูกขัดขวางบางส่วน เนื่องจากมีการรวมตัวของแรงงานในท่าเรือหลักของเจนัวและลิวอร์โน

สหภาพแรงงานและองค์กรนักศึกษาต่างออกมาประณาม "ความเฉื่อยชาของรัฐบาลอิตาลีและสหภาพยุโรป" ในการรับมือกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา โดยผู้คนกว่า 20,000 คนได้รวมตัวกันที่หน้าสถานีรถไฟกลางในกรุงโรมเพื่อประท้วงสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลง

แม้ว่ารัฐบาลอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอลในสหภาพยุโรปจะเริ่มใช้ถ้อยคำที่รุนแรงขึ้นกับนโยบายของอิสราเอล แต่รัฐบาลอิตาลียังคงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่จะรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในสัปดาห์นี้

ที่มา: The Senior, 22/9/2025 

การประท้วง Tesla ในสวีเดนยังคงดำเนินต่อไปกว่า 650 วันแล้ว แม้มีกระแสข่าวลวงว่าสิ้นสุดแล้ว

การประท้วงของพนักงานที่ศูนย์บริการและซ่อมรถของ Tesla ในสวีเดนยังคงดำเนินต่อไปและมีความเข้มข้นเหมือนเดิม แม้จะมีรายงานข่าวที่ไม่ถูกต้องจากบางสำนักข่าวที่อ้างว่าการประท้วงสิ้นสุดลงแล้ว การประท้วงซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงร่วมกับสหภาพแรงงาน IF Metall

เว็บไซต์ข่าวสำหรับแฟนคลับ Tesla ได้เผยแพร่บทความที่สร้างความเข้าใจผิด โดยอ้างว่าสหภาพแรงงานยอมยุติการประท้วงที่ยาวนานกว่า 650 วันแล้ว ซึ่งบทความนี้อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุของ Marie Nilsson ผู้นำสหภาพแรงงาน IF Metall แต่ในความเป็นจริงแล้ว Nilsson ไม่ได้กล่าวว่าจะยุติการประท้วง เพียงแต่ระบุว่าสหภาพฯ กำลังพิจารณาหาแนวทางอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานจะได้รับการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานตามมาตรฐานของอุตสาหกรรม

การเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างสองฝ่ายได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 3 กันยายน หลังจากที่สถาบันไกล่เกลี่ยแห่งชาติสรุปว่าไม่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ เนื่องจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ โดยทางสหภาพฯ ระบุว่าฝ่ายบริหารของ Tesla ในสวีเดนมีอำนาจจำกัดในการตัดสินใจ ซึ่งการปฏิเสธการลงนามในข้อตกลงร่วมนั้นเป็นคำสั่งโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ

การประท้วงครั้งนี้ได้ขยายวงกว้างไปสู่การดำเนินการที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ช่างไฟฟ้าที่ปฏิเสธการทำงานในสถานีชาร์จรถของ Tesla พนักงานไปรษณีย์ปฏิเสธที่จะส่งป้ายทะเบียนรถ และพนักงานท่าเรือปฏิเสธที่จะขนส่งอุปกรณ์ของ Tesla นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนจากพนักงานท่าเรือในฟินแลนด์ เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของระบบแรงงานแบบนอร์ดิกที่เน้นการเจรจาร่วมระหว่างสหภาพแรงงานและองค์กรนายจ้าง

การประท้วงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายรถยนต์ของ Tesla ในสวีเดน โดยในเดือนกรกฎาคม บริษัทมียอดขายรถเพียง 163 คัน ซึ่งลดลง 85.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วและเป็นผลการดำเนินงานรายเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022

การต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อตกลงร่วม (collective agreements) ถือเป็นรากฐานของระบบแรงงานแบบนอร์ดิก ซึ่งเป็นระบบที่รัฐเข้ามามีบทบาทน้อย และปล่อยให้เรื่องการจ้างงานได้รับการบริหารจัดการโดยสหภาพแรงงานและองค์กรนายจ้าง ระบบนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยสร้างเสถียรภาพ ความเป็นธรรม และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศมาเป็นเวลานาน

ที่มา: Green Left, 21/9/2025 

Sunday, September 21, 2025

วารสารคนทำงาน กันยายน 2568

ดาวน์โหลดฟรี วารสารคนทำงาน กันยายน 2568 ในฉบับพบกับ .. แบรนด์เสื้อผ้ากีฬารายใหญ่ใน NBA เชื่อมโยงกับการใช้แรงงานบังคับในจีน [หน้า 22] AI กำลังเข้ามาแทนที่ คนทำงานรับจ้างแชตแทนดาว OnlyFans [หน้า 29] ใครทำให้เมืองสะอาด? ผู้หญิงโบลิเวียเก็บขยะเพื่อความยั่งยืน แต่สังคมมองข้าม [หน้า 35] ผลสำรวจชี้ 1 ใน 3 บริษัทในอังกฤษ ใช้ 'Bossware' สอดส่องพฤติกรรมพนักงาน [หน้า 41]

ดาวน์โหลดฟรีได้ที่

scribd.com >> https://tinyurl.com/y35sbr5x

mebmarket.com >> https://tinyurl.com/mebworkazine

workazine.com >> https://tinyurl.com/workazinedownload

 

Saturday, September 20, 2025

คนอเมริกันรุ่นใหม่ใช้ TikTok โปรโมทอาชีพช่าง หวังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

คนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ จำนวนไม่น้อยกำลังหันมาทำงานในสายอาชีพช่างฝีมือ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม และช่างเทคนิคระบบปรับอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงภาระหนี้สินจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย และเพื่อความมั่นคงในอาชีพที่ยากจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

จากผลสำรวจของ Resume Builder เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า 42% ของแรงงาน Gen Z เลือกทำงานช่างเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สินจากการเรียน และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกปัญญาประดิษฐ์มาแย่งงาน นอกจากนี้ ข้อมูลจากบริษัท Gusto ยังระบุว่าเมื่อปีที่แล้ว แรงงาน Gen Z คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของพนักงานใหม่ในสายอาชีพช่างฝีมือทั้งหมด ทั้งที่พวกเขาเป็นเพียง 14% ของประชากรวัยทำงาน

คนรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในแต่ละวันของอาชีพช่างของพวกเขา ซึ่งวิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากและมีผู้เข้าชมหลายล้านครั้ง ผู้ที่ทำวิดีโอเล่าว่า พวกเขาต้องการแสดงให้คนรุ่นต่อไปเห็นว่า ถ้าพวกเขาสามารถทำได้ ทุกคนก็สามารถทำได้เช่นกัน

ผลสำรวจยังพบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของแรงงาน Gen Z ยินดีที่จะพิจารณาประกอบอาชีพช่าง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าในขณะที่ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายในการเรียนสายอาชีพกลับถูกกว่ามาก และหลายอุตสาหกรรมในสายงานช่างก็มีความต้องการบุคลากรจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจอาชีพเหล่านี้มากขึ้น

ที่มา: NBC News, 20/9/2025 

ทางการฝรั่งเศสเผยว่ามีประชาชนกว่า 500,000 คนประท้วงนโยบายรัดเข็มขัด

การประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดยังคงดำเนินต่อไปทั่วฝรั่งเศส แม้ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะส่งสัญญาณถอนแผนการตัดลดการใช้จ่ายบางส่วนแล้วก็ตาม ผู้ประท้วงบางส่วนได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน โดยในระหว่างที่มีการประท้วง นายเซบาสเตียน เลอกอร์นู อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เขาได้แสดงท่าทีเป็นนัยว่า อาจยกเลิกนโยบายตัดลดงบประมาณบางส่วนของนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า

ทางการฝรั่งเศสเผยว่า มีผู้ชุมนุมกว่า 500,000 คนทั่วประเทศเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2025

มีรายงานว่าผู้ประท้วงประมาณ 55,000 คนรวมตัวกันที่กรุงปารีส บางส่วนถือป้ายพร้อมข้อความเรียกร้องให้การปรับปรุงคุณภาพชีวิต

บริการรถไฟบางส่วนถูกระงับเนื่องจากสหภาพแรงงานเรียกร้องให้หยุดงานครั้งใหญ่

ในบางเมือง ผู้ประท้วงปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสระบุว่า มีผู้ถูกควบคุมตัวมากกว่า 300 คนทั่วประเทศ

ผู้นำสหภาพแรงงานระดับอาวุโสคนหนึ่งกล่าวว่า ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประชาชนต้องการค่าแรงและเงินบำนาญที่สูงขึ้น รวมถึงการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมมากขึ้น

ที่มา: NHK World, 19/9/2025 

Friday, September 19, 2025

พนักงานในสหรัฐฯ เกือบครึ่งหนึ่ง รู้สึกว่าหัวหน้าไม่เข้าใจผลงานที่แท้จริงของพวกเขา

ผลสำรวจล่าสุดของ The Predictive Index เผยว่า พนักงานในสหรัฐฯ เกือบครึ่งหนึ่งรู้สึกว่าหัวหน้าของตนไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาได้ทำและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ส่งผลให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้รับการเห็นคุณค่า และอาจถูกมองข้ามเมื่อมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่มีความคลุมเครือในบทบาทหน้าที่ ซึ่งยากต่อการวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ในขณะที่บางงานสามารถวัดผลได้ชัดเจน เช่น ยอดขายของพนักงานขาย แต่สำหรับบางตำแหน่ง เช่น ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ซึ่งต้องจัดการงานที่หลากหลายอย่างการสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ อาจเป็นเรื่องยากที่หัวหน้าจะเข้าใจถึงคุณค่าที่พนักงานมอบให้ทั้งหมดได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการได้เสนอแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยแนะนำให้ผู้จัดการกำหนดเป้าหมายรายไตรมาสที่ชัดเจนพร้อมระบบการตรวจสอบความคืบหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่พนักงานสามารถถามคำถามได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องกลัว และควรมีการพูดคุยกับลูกทีมเป็นประจำเพื่อรับฟังปัญหา ให้กำลังใจ และชื่นชมผลงานที่ทำสำเร็จอย่างเฉพาะเจาะจง การให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และแสดงให้เห็นว่าเข้าใจในงานที่พนักงานทำ จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมได้อย่างมาก

ที่มา: Quartz, 19/9/2025


เรื่องที่ได้รับความนิยม